การรักษาด้วยช็อคเวฟแบบโฟกัสคืออะไร
การรักษาด้วยคลื่นกระแทกช็อคเวฟ (Focused Shockwave) คือ การส่งคลื่นกระแทกไปยังบริเวณเนื้อเยื่อที่มีปัญหา เฉพาะจุด ช่วยให้เกิดการคลายตัว โดยกระบวนการทำงานของคลื่นกระแทกเฉพาะจุดนี้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์ เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหลั่ง growth factor จากหลอดเลือดและเซลล์ ซึ่งเป็นการกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ ช่วยลดอาการปวด และลดอาการตึงของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ The Recover Clinic จึงเลือกนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ มาใช้ในการลดปวด ลดบาดเจ็บในปัญหาต่างๆ ของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีทีสุด
โดยการทำช็อคเวฟแบบโฟกัสจะสามารถกระแทกได้ลึกและรักษาได้ตรงจุดมากกว่า การทำแบบ Radial Shockwave แต่ละครั้งนั้นจะใช้คลื่นความถี่ยิงรักษาไปยังบริเวณกล้ามเนื้อที่ตึงตัวอย่างเฉพาะจุดเริ่มต้นประมาณ 1,000-1,500 ช็อทต่อ 1 บริเวณรักษา การรักษาอาการปวดเมื่อยด้วย Focused Shockwave ไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาจึงทำให้เป็นการกายภาพที่หลายๆ กลุ่มคนเลือกใช้บำบัดอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้น

จุดเด่นของการลดปวดด้วยช็อคเวฟแบบโฟกัส
- ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ใช้ยา
- บรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว
- เร่งการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ช่วยซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่
- ให้ผลลัพธ์ลดปวดที่ยาวนานหลังจากรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง
ช็อคเวฟแบบโฟกัส รักษาอาการอะไรได้บ้าง?
Focused Shockwave Therapy (ESWT) เป็นการรักษาที่ใช้คลื่นกระแทกพลังงานสูงแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ลดความเจ็บปวด และส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ซึ่งต่างจาก Radial Shockwave Therapy ที่พลังงานจะกระจายออกไปมากกว่า ทำให้ Focused Shockwave เหมาะสำหรับการรักษาอาการที่ลึกกว่าและเฉพาะจุด ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น ยกตัวอย่างเช่น
ภาวะเอ็นอักเสบเรื้อรัง
- เอ็นใต้ฝ่าเท้าอักเสบหรือรองช้ำ (Plantar Fasciitis)
- เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles Tendinitis)
- เอ็นสะบ้าอักเสบ (Patellar Tendinitis)
- เอ็นข้อศอกอักเสบ (Tennis elbow)
- เอ็นหัวไหล่อักเสบ (Rotator cuff tendinitis)
อาการปวดเรื้อรังอื่นๆ
- อาการปวดกล้ามเนื้อและพังผืด (Myofascial Pain Syndrome)
- อาการจุดกดเจ็บ (Trigger Point )
- อาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
- อาการปวดบริเวณสะโพก (Hip Pain)
- อาการเจ็บหน้าแข้ง (Shin Splints)
อื่นๆ
- ภาวะข้อไหล่ติด (Frozen Shoulder)
- นิ้วล็อค (Trigger Finger)
- ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction)
- อาการกระดูกหัก (Nonunion Fracture)
จุดเด่นของการลดปวดด้วยช็อคเวฟแบบโฟกัส
การลดปวดด้วยช็อคเวฟแบบโฟกัส (Focused Shockwave Therapy) มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการรักษาอาการปวดเรื้อรังและปัญหาเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและกระดูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับช็อคเวฟแบบเรเดียล (Radial Shockwave) ที่กระจายพลังงานมากกว่า
ความแม่นยำและเจาะจงสูง
คลื่นกระแทกจะถูกโฟกัสไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ ทำให้พลังงานส่งไปถึงเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บหรืออักเสบได้อย่างตรงจุดและลึกกว่า ลดการกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
ประสิทธิภาพในการกระตุ้นการซ่อมแซมและฟื้นฟู
ช็อคเวฟแบบโฟกัสมีคลื่นพลังงานที่เข้มข้นมากๆ คลื่นเหล่านั้นจะกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ เพิ่มการไหลเวียนโลหิตและสารอาหารไปยังบริเวณที่บาดเจ็บ และยังกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เช่น เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งช่วยในการสร้างคอลลาเจน รวมทั้งช่วยสลายหินปูนที่สะสมผิดปกติในเส้นเอ็นและข้อต่อ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดเรื้อรังได้ดี
ลดอาการปวดได้อย่างรวดเร็วและยาวนาน
คลื่นกระแทกช่วยลดสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณความปวด และกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารลดปวดตามธรรมชาติ ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งและลดจุดกดเจ็บ ทำให้รู้สึกบรรเทาอาการปวดได้ทันทีหลังการรักษา ผลการลดปวดที่เกิดขึ้นจากกลไกการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการลดการอักเสบนั้น ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่าการบรรเทาอาการชั่วคราว
ปลอดภัย
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีการฉีดยา หรือใช้ยาชา ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด มีความปลอดภัยสูง ฟื้นตัวเร็ว และไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง มักสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันทีหลังการรักษา
เข้าถึงเนื้อเยื่อชั้นลึกได้ดี
สามารถส่งพลังงานลงลึกได้ถึงเนื้อเยื่อภายใน เช่น เอ็น ข้อต่อ หรือกระดูก ซึ่งยากต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับอาการปวดเรื้อรังที่เกิดจากโครงสร้างที่อยู่ลึก เช่น เอ็นสะโพก เอ็นสะบ้า หรือพังผืดใต้ฝ่าเท้า
ทำไมถึงต้องเลือกทำช็อคเวฟ ที่ The Recover Clinic
The Recover Clinic ให้ความสำคัญกับการดูแลที่มุ่งเน้นผู้ป่วย โดยเลือกใช้เทคโนโลยี FSWT ขั้นสูง นำเข้าจากสหราชอาณาจักรและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และที่สำคัญการรักษาด้วย ที่ The Recover Clinic จะได้รับการประเมิน วินิจฉัยและทำหัตถการ โดยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการใช้เครื่องมืออย่างมาก เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดของคนไข้ และทำให้คนไข้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว

อาการที่สามารถรักษาด้วยช็อคเวฟแบบโฟกัส
- ผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังจากระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ (Myofascial pain syndrome)
- ผู้ที่มีอาการเอ็นอักเสบเรื้อรัง เช่น เอ็นข้อศอกอักเสบ (Tennis elbow), เอ็นหัวไหล่อักเสบ (Shoulder tendinitis), เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles tendinopathy) , เอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือรองช้ำ (Plantar fasciitis)
- ผู้ที่มีเส้นเอ็นเสื่อมจากการใช้งานมาก เช่นในนักกีฬา เอ็นสะบ้าเข่า (Patellar tendinopathy), เอ็นต้นขาด้านหลัง (Hamstring tendinopathy)
- ผู้ที่มีหินปูนเกาะบริเวณต่างๆ เช่น Heel spur, Calicific tendonopathy of shoulder
- ผู้ที่มีภาวะการไม่เชื่อมติดของกระดูก (Bone non-union)

ขั้นตอนการรักษา “รองช้ำ” ด้วยการทำกายภาพโฟกัสช็อคเวฟรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางเวชสาสตร์ฟื้นฟู
- แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูจะประเมินอาการและระบุจุดที่ปวด
- ทาเจล บริเวณที่จะทำการรักษา
- ใช้เครื่องมือส่งคลื่นกระแทก ลงตรงผิวหนังบริเวณที่มีอาการปวดหรือบาดเจ็บ
- ปรับระดับพลังงานและความถี่ของคลื่นให้เหมาะสมกับอาการและความทนต่อความรู้สึกของผู้ป่วย
- การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
- โดยทั่วไปจะทำซ้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จำนวน 3-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองของผู้ป่วย

ผลข้างเคียงของการทำช็อคเวฟแบบโฟกัส
- อาจมีอาการปวด ระบบหลังทำ ประมาณ 1-2 วัน
- ผิวแดง ช้ำ บวม จุดเลือดออก ผื่นแดง บริเวณที่ทำ: อาการมักหายภายใน 5-10 วัน
ผู้ที่มีภาวะต่อไปนี้ ไม่ควรทำช็อคเวฟ
- บริเวณที่เป็นเนื้องอก มะเร็ง
- บริเวณที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- บริเวณสมองและเนื้อเยื่อประสาท
- ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- บริเวณที่มีแผลติดเชื้อที่ผิวหนัง

คำถามยอดนิยม:
การทำช็อคเวฟแบบโฟกัสเหมาะกับผู้ป่วยแบบใด?
- ผู้ที่มีอาการปวดทั่วไป ปวดเรื้อรัง ออฟฟิศซินโดรม เส้นเอ็นอักเสบ รองช้ำ
หลังทำโฟกัสช็อคเวฟต้องพักฟื้นหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมอะไรหรือไม่?
- หลังทำการรักษาไม่จำเป็นต้องพักฟื้นแต่ต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หลีกเลี่ยงการนวด อย่างน้อย 1- 2 วันแรกหลังการรักษา
พลังงานที่ใช้ในเครื่องโฟกัสช็อคเวฟสามารถปรับได้ตามอาการหรือไม่?
- สามารถปรับได้ตามอาการของผู้ที่ทำการรักษา
การทำโฟกัสช็อคเวฟสามารถเบิกประกันได้หรือไม่?
- ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน
Focused Shockwave ต่างจาก Radial Shockwave อย่างไร?
- ช็อคเวฟแบบโฟกัสจะสามารถส่งคลื่นกระแทกเข้าไปได้ลึก และโฟกัสการรักษาได้ตรงจุดมากกว่า ในขณะที่ ช็อคเวฟแบบเรเดียลจะส่งคลื่นกระแทกไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่ตื้น แต่จะได้บริเวณที่กว้างกว่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ช็อคเวฟแบบโฟกัสเป็นที่นิยมมากกว่าช็อคเวฟแบบเรเดียล
ระยะเวลาในการทำ Focused Shockwave Therapy นานเท่าใด? ควรแนะนำให้ผู้ป่วยทำกี่ครั้ง?
- โดยทั่วไป การทำช็อคเวฟแบบโฟกัสจะใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาทีต่อครั้ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักต้องเข้ารับการรักษาทุก 1-2 สัปดาห์ต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางการรักษาที่ยาวนาน อย่างไรก็ตาม จำนวนครั้งในการรักษาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วย คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และเป้าหมายของการบำบัด
การทำ Focused Shockwave Therapy ทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่?
- ช็อคเวฟแบบโฟกัสเป็นวิธีการรักษาที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างทำ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยมักจะรู้สึกถึงแรงกระแทกในบริเวณมีอาการบาดเจ็บหรือปวดได้ โดยสามารถปรับระดับการตั้งค่าของเครื่องมือให้เหมาะสมได้ตามความรู้สึกของผู้ป่วย
สุดท้ายนี้ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาปวดเรื้อรัง ของระบบกระดูก กล้ามเนื้อและเอ็น ทั้งหลาย อาจพิจารณาการรักษาด้วยคลื่นกระแทกแบบเฉพาะจุด ที่ The Recover Clinic ซึ่งมีทั้งทีมแพทย์และนักกายภาพที่จะดูแลให้การรักษาอย่างตรงจุดและเฉพาะบุคคล







