การวิ่งถือเป็นกีฬายอดนิยมที่ทุกคนจะเลือกเป็นอันดับต้นๆ เมื่อคิดอยากออกกำลังกาย แต่รู้หรือไม่? ว่าการวิ่งสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ และหากไม่รีบรักษาอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บเรื้อรังที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันจนรบกวนการทำงานได้เลยทีเดียว!
สาเหตุของการบาดเจ็บ
การบาดเจ็บสามารถเกิดได้ ทั้งจากอุบัติเหตุ และ การใช้งานกล้ามเนื้อผิดวิธีหรือใช้งานมากเกินกว่าที่กล้ามเนื้อรับไหว รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์กีฬาที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าที่ไม่ซัพพอร์ตการวิ่ง เสื้อผ้าไม่เหมาะสม ก็สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้เช่นกัน
อาการบาดเจ็บหลายครั้งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อยังไม่พร้อมในการออกกำลัง จึงควรป้องกันการบาดเจ็บด้วยการยืดกล้ามเนื้อ (Warm-up) และการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (Cool Down) ทุกครั้งก่อนและหลังวิ่ง นอกจากป้องกันการบาดเจ็บได้แล้ว การอบอุ่นร่างกายให้พร้อม ยังช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย
อาการบาดเจ็บที่พบบ่อยในหมู่นักวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักกรีฑา นักวิ่งมาราธอน หรือ ผู้ที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย มีอะไรบ้าง?
6 จุดบาดเจ็บ (Pain Point) ที่เหล่าสายวิ่งมักเป็นบ่อยๆ ได้แก่
- หลัง – สามารถเกิดอาการปวดได้ทั้งหลัง หรือ หลังล่างช่วงเอว
- สะโพก – เจ็บสะโพก
- ขาหนีบ – เจ็บขาหนีบ รวมไปถึง ต้นขาด้านข้าง ต้นขาด้านหลัง
- เข่า – เจ็บทั้งหัวเข่า หรือ เฉพาะเข่าด้านนอก
- น่อง – ปวดน่อง หรือ ปวดบริเวณสันกระดูกหน้าแข้ง
- ข้อเท้า/ฝ่าเท้า – ปวดเบริเวณข้อเท้า ฝ่าเท้า หรือ เอ็นร้อยหวาย
ซึ่งอาการปวดตามจุดต่างๆ เหล่านี้ สามารถกลายเป็นอาการกล้ามเนื้ออักเสบในจุดต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นได้ เช่น ข้อเข่าอักเสบ รองช้ำ หน้าแข้งอักเสบ เป็นต้น
หากเกิดอาการเจ็บระหว่างวิ่ง ไม่ควรฝืนวิ่งต่อ เพราะจะทำให้อาการปวดรุนแรงมากขึ้นจนไม่สามารถวิ่งต่อได้ และหากไม่รักษา อาจทำให้อาการบาดเจ็บกลับมาเป็นซ้ำที่เดิม เมื่อมีอาการเหล่านี้จึงควรรีบรักษาเพื่อไม่ให้เกิดการเรื้อรัง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำงานนั่งเอง
การรักษาอาการบาดเจ็บจากการวิ่งในทางกายภาพบำบัดมีด้วยกันหลายวิธี หลายระดับ ตามแต่ความเหมาะสมของแต่ละบุคคล สามารถปรึกษาอาการบาดเจ็บกับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อประเมินและรับการรักษาพร้อมให้คำแนะนำกับสายวิ่งทุกคนได้ที่ The Recover Clinic